สงครามที่ตัดสินกันด้วย “Personal Error” ศึก ลอนดอนดาร์บี้ อาร์เซนอล-สเปอร์ส – FEATURE
“สงครามลอนดอนเหนือ” เกมที่ 192 จบลงเรียบร้อยด้วยชัยชนะของทีมเจ้าบ้านอย่างอาร์เซนอล ที่จบด้วยสามคะแนน พร้อมกับรั้งจ่าฝูงที่เป็นการยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับ สเปอร์ส เป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ในเวลาเดียวกัน
ในช่วงหลายเกมที่ผ่านมาสำหรับเกมคู่นีไม่ว่าจะเล่นที่ไหนก็เดือดและดุเสมอ พร้อมกับผลงานที่บ่งชัดว่าเกมนี้ แทงบอลฟรีเครดิต “บ้านใครบ้านมัน” ในช่วง 6 เกมหลังสุดที่พบกัน ชัยชนะตกเป็นของทีมเหย้าในทุกเกม รวมถึงในเกมนี้ด้วย
ก่อนเกมทั้งสองทีมได้ “ทัพใหญ่” เกือบฟูลทีม เจ้าบ้านขาดสามนักเตะทั้ง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, เซดริก โซอาเรส และ เอมิล สมิธ โรว์ ส่วนทีมเยือนขาด เดยัน คูลูเชฟสกี้ ปีกสวีดิชเพียงคนเดียวที่เป็นตัวหลัก ส่วนลูคัส มูร่า และ เบน เดวิส ที่บาดเจ็บก็ไม่ได้เป็นตัวหลักในระยะหลังของทีม
เกมนี้เป็นเกมพิเศษสำหรับแฟนบอลทั้งสองทีมถึงขั้นที่ว่า “แพ้ใครก็ได้ ห้ามแพ้แม่งทีมเดียว” ก็เคยมีวลีแบบนี้ออกมาแล้ว อาร์เซนอลในระยะหลังผ่านช่วงสูงสุดของความสำเร็จ หลายครั้งเจ็บปวดกับความพ่ายแพ้ให้สเปอร์สบ่อยขึ้น แต่สำหรับสเปอร์สพวกเขามองอาร์เซนอลคืออริที่ยังไงก็ต้องก้าวข้ามไปให้ได้ หากอยากประสบความสำเร็จในแง่ถ้วยรางวัลที่รอคอยมานานเกิน 1 ทศวรรษ
มิเคล อาร์เตต้า และ อันโตนิโอ คอนเต้ เจอกันอีกครั้ง หลังจากครั้งล่าสุด คอนเต้ สอนบอลอาร์เตต้าในบ้านสเปอร์ส 3-0 ในปีก่อน พร้อมกับปาดหน้าคว้าอันดับสี่ไปครองในบั้นปลาย ทั้งสองคนมีสงครามน้ำลายกันเบา ๆ มาตลอดทุกครั้งเวลาที่กล่าวถึงอีกฝ่าย แม้จะไม่หนักหน่วงแต่ก็ชัดเจนว่าไม่มีใครยอมใคร และเป็นอีกครั้งที่เกมนี้สองโค้ชมั่นใจในปรัชญา และการฝึกซ้อมของทีมตนเอง พวกเขาเลือกแผนการเล่นที่ดีที่สุด คุ้นเท้าที่สุดสำหรับลูกทีมลงสนาม
บรรยากาศในสนามเกมดาร์บี้แมตซ์ก็กดดันอยู่แล้ว ยิ่งเป็นเกมระดับ “ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ” มาเจอกันบรรยากาศก็ยิ่งปลุกเร้า แน่นอนแฟนบอลอาร์เซนอลทำงานของพวกเขาได้ดีในบรรยากาศที่กดดันเสียงเชียร์กระหึ่มตั้งแต่นาทีแรก อาร์เซนอล เริ่มต้นด้วยสไตล์กดดันหนักตั้งแต่นาทีแรก “ครองบอล คุมเกมให้ได้ และหาทางยิงประตูให้ได้เร็วที่สุด” ปรัชญาตรงนี้เห็นกันทุกเกมในปีนี้ และเกมนี้อาร์เซนอลฉวยเอาไว้ได้ 2 นาทีแรก มาร์ติเนลลี่ กดเต็มข้อในเขตโทษบอลชนเสา แม้จะไม่เข้าแต่ก็กระตุ้นแฟนบอลได้อย่างดี
อัพเดทข่าวกีฬา แนะนำข่าวเพิ่มเติม>> โรมา คืนฟอร์มเชือด เอ็มโปลี 2-1 ขึ้นที่ 5 กัลโช เซเรีย อา